Universal Design: ทำได้ แต่ไป (ไม่) ถึง?

by Little Bear @27 ม.ค. 55 19:07 ( IP : 122...2 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ , ผู้พิการ

 คำอธิบายภาพ : news_img_393327_1 การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) ดูจะเป็นแนวคิดที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างมากและหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน ทั้งในภาคส่วนของรัฐ แวดวงสถาปัตยกรรมและการออกแบบ องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุและคนพิการ และภาคบริการของไทย

แนวคิดดังกล่าวนี้ดูจะมีหลักตั้งอยู่บนฐานคิดเกี่ยวกับการสร้างลักษณะพื้นที่ทางกายภาพและเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและพื้นที่สาธารณะที่เอื้อต่อการให้ทุกกลุ่มคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ต้องดัดแปลงเฉพาะหรือเป็นพิเศษสำหรับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

หรือพูดอย่างง่ายๆ ก็คือการออกแบบพื้นที่และข้าวของเครื่องใช้ที่ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ กลุ่มคนชรา กลุ่มคนพิการประเภทต่างๆ สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ โดยการออกแบบเพื่อคนทั้งมวลนี้ดูจะเชื่อมโยงกับแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสังคมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่มอย่างมีสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน (Inclusive Society)

ในสังคมไทยแนวคิด การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) ได้รับการกล่าวถึงมาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2520 ที่เริ่มมีการกล่าวถึงแนวทางการสร้างความตระหนักแก่สังคมเกี่ยวกับสิทธิและความเสมอภาคของคนพิการโดยสหประชาชาติและองค์การเกี่ยวกับคนพิการระดับนานาชาติ ซึ่งต่อมาในช่วงทศวรรษ 2530 การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล ดูจะได้รับการเน้นย้ำอย่างจริงจังมากจากกลุ่มคนพิการและองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับประเด็นความพิการในฐานะส่วนหนึ่งของการรณรงค์ด้านสิทธิและความเสมอภาคของคนพิการ อันนำไปสู่การออกพระราชบัญญัติพื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534 ที่ประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2537 ที่นอกจากจะมีเนื้อหากล่าวถึงสิทธิและความเท่าเทียมกันของคนพิการในการใช้ชีวิตทางสังคมและการประกอบอาชีพแล้ว ยังได้ระบุถึงการที่ต้องมีการออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะอาคาร สถานที่ พื้นที่และบริการสาธารณะต่างๆ ที่ต้องเอื้อแก่การใช้ชีวิตของคนพิการ

หลักการที่วางไว้ในพระราชบัญญัติพื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534 ดูจะได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังมากขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 2540 เป็นต้นมา ที่มีการออกกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เป็นรูปธรรมหลายฉบับ (อาทิ การประกาศกฎกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมในปี พ.ศ. 2542 ที่กำหนดลักษณะอาคารสถานที่ ยานพาหนะและบริการสาธารณะที่ต้องอำนวยความสะดวกกับคนพิการ)ที่กล่าวถึงการสร้างพื้นที่สาธารณะและระบบขนส่งมวลชนที่ต้องเอื้อแก่การใช้ชีวิตของคนพิการที่ต่อมาได้ผูกโยงและขยายไปสู่กลุ่มคนอื่นๆ ในสังคมโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และนำมาสู่การใช้แนวคิด ?การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล? อย่างจริงจังในพื้นที่สาธารณะของสังคมไทย

ในแง่นี้ หากใครแวะเวียนไปตามสถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะต่างๆ หรือแม้แต่การเดินตามทางเท้าบนถนนในช่วงเวลาประมาณ 6 ? 7 ปีที่ผ่านมาก็จะสังเกตเห็นได้ถึงการปรับเปลี่ยนสภาพทางกายภาพของพื้นที่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงทางลาดและวัสดุปูทางเท้าของถนนหลายสายในเขตกรุงเทพ และเมืองใหญ่บางเมือง การสร้างสัญญาณไฟจราจรสำหรับคนข้ามถนน และการก่อสร้างต่อเติมทางลาดและระบบลิฟต์ที่มีเสียงในอาคารของสถานที่ราชการส่วนใหญ่ เป็นต้น

แม้จะดูเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ภาครัฐและสังคมไทยมีความตระหนักที่จะ ?ปฏิบัติ? ตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศใช้ตามกฎหมายเกี่ยวกับการออกแบบอาคารให้เอื้อกับคนทางมวลอันอาจสะท้อนภาพในเชิงปฏิบัติให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสภาพทางสังคมที่เหมาะแก่การอยู่ร่วมกันของคนทุกกลุ่ม

 ทางเท้าที่มีสิ่งกีดขวาง หากแต่ในทางกลับกันก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีหรือค่อนข้างจะเศร้าใจด้วยซ้ำที่การออกแบบและก่อสร้างเหล่านี้ส่วนใหญ่แทบจะไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อคนทั้งมวลได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าใดนัก เพราะหากเราลองสังเกตดูพื้นที่ที่มีความมุ่งหวังในการ ?เอื้อให้กับคนกับคนทั้งมวล? แล้วจะพบว่าบรรดาพื้นที่และสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เกือบทั้งหมดดูจะมีสภาพที่พร้อมใช้งานตามจุดมุ่งหมายของมันในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนหลังการก่อสร้างเสร็จสิ้นเท่านั้น นี่ไม่รวมการก่อสร้างจำนวนมากที่ ?สักแต่ว่าทำ สักแต่ว่าสร้าง? ที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วแทบไม่สามารถใช้งานสำหรับคนทั้งมวลได้

ไม่ต้องสังเกตไปไกลแค่ลองดูบรรดาทางเท้าที่มีทางลาดและอิฐปูพื้นที่เหมาะแก่การใช้ชีวิตของคนทั้งมวลแล้วจะพบว่าในเวลาไม่นานหลังสร้างเสร็จไม่เพียงแต่จะมีผู้คนนำสิ่งของต่างๆ ไปวางกีดขวางทางเดิน หากแต่ในบางครั้งยังมีการก่อสร้างที่นอกจากทำการกีดขวางเวลาดำเนินการแล้ว เมื่อเสร็จสิ่งสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นจำนวนหนึ่งกีดขวางการเดินใช้ชีวีตของคนทั้งมวลด้วย ในทางเดียวกับสัญญาณไฟข้ามถนนที่ ?อินเทรน? สร้างกันอย่างมากมาย แต่แล้วไม่นานก็ต้องพบกับสภาพชำรุดอย่างไม่มีการซ่อมแซม นี่ยังไม่นับรวมบรรดารถยนต์ที่ไม่จอดให้คนเดินข้ามในห้วงเวลาที่สัญญาณยังไม่ชำรุด หรือแม้แต่ทางลาดขึ้นอาคารที่พอสร้างเสร็จก็มีสิ่งของกีดขวางไม่สะดวกแก่การใช้

การก่อสร้างและปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อความหวังแก่คนทั้งมวลส่วนใหญ่ที่ดำเนินกันอยู่ในสังคมไทยเวลานี้นอกจากจะทำให้เห็นการ ?สักแต่ว่าทำ สักแต่ว่าสร้าง? ดังที่กล่าวมา หรือการมีปัญหาด้านการบริหารจัดการดังที่งานสำรวจและศึกษาจำนวนหนึ่งได้ชี้ให้เห็นแล้ว ในอีกมุมหนึ่งดูจะฉายให้เห็นภาพในระดับของทัศนคติ ความคิด และสำนึกของสังคมหรือคนจำนวนมากในสังคมที่ยังมิได้ปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้ชีวิตร่วมกับ ?กลุ่มคนอื่น? อย่างเท่าเทียม

สำหรับผู้เขียนแล้วทัศนคติ ความคิดและสำนึกของสังคมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ไม่แพ้กฎเกณฑ์ กฎหมาย หรือการบริหารจัดการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล เพราะอย่าลืมนะครับว่าในการปฏิบัติหรือการรับเอาแบบแผนอย่างใดอย่างหนึ่งไปใช้มันต้องผ่านตัว ?มนุษย์? แทบทั้งสิ้น และในเมื่อคนที่นำไปใช้หรือเกี่ยวข้องยังมีความคิดหรือสำนึกที่ ?ไม่เปิด? หรือ ?เอื้อ? ต่อการใช้ชีวิตร่วมกับกลุ่มคนอื่นแล้วก็ยากที่ความมุ่งหวังซึ่งถูกใส่ไว้ในกฎเกณฑ์ โครงการ และแผนงานต่างๆ จะสามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ตรงกับเป้าประสงค์ที่วางไว้

มีงานศึกษาจำนวนหนึ่งพยายามเสนอว่าการปรับเปลี่ยนแนวคิดหรือทัศนคติเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก โดยมีเครื่องมือสำคัญอยู่ที่การจัดอบรมหรือทำ Work Shop ให้ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้เกี่ยวกับสามารถบริหารจัดการและดูแลพื้นที่ที่ออกแบบสำหรับคนทั้งมวล

สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่าวิธีดำเนินงานดังกล่าว แม้วิธีดำเนินการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญอยู่บ้าง หากแต่อย่าลืมนะครับว่าการปรับเปลี่ยนความคิด ทัศนคติหรือสำนึกของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนหรือการอบรมสัมมนาไม่กี่ครั้ง เพราะทัศนคติและสำนึกต่อเรื่องต่างๆ ของมนุษย์ได้ถูกปลูกฝังและบ่มเพาะผ่านปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมทางสังคมมาตั้งแต่เด็ก ในแง่นี้การที่จะปรับเปลี่ยนความคิดของสังคมหรือกลุ่มคนจึงควรที่จะต้องใช้วิธีการที่ค่อยๆ ทำให้เกิดความตระหนัก ระลึกหรือเข้าใจการดำรงอยู่ของคนอื่นในสังคมด้วย นอกจากนี้กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพื่อคนทั้งมวลดูจะมิได้มีแต่เพียงผู้ปฏิบัติการหรือบริหารจัดการเท่านั้น หากแต่รวมไปถึงกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมด้วย หากกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่และชัวิตของ ?คนอื่น? ตัวอย่างเช่น ของคนขับรถที่ไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของคนข้ามถนนหรือคนเดินเท้า ก็ยากที่จะบรรลุผลของการออกแบบเพื่อคนทั้งมวลได้

ในส่วนของวิธีการที่จะเซาะปรับเปลี่ยนความคิด ทัศนคติและสำนึกของสังคม ผู้เขียนดูจะยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในบทความชิ้นนี้ หากแต่คิดว่าควรเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการผ่านหลายส่วนของสังคม ตั้งแต่การสื่อสารมวลชน การศึกษา และภาพเสนอต่างๆ ที่จะทำให้ระลึกว่า ?นอกจากฉันและยังมีเธออยู่อีกหลายคน?

โดย อนรรฆ พิทักษ์ธานิน นักวิชาการอิสระ

ที่มา: ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ คอลัมน์มุมมองบ้านสามย่าน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 0110
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง